บทความเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์
Cost 101: ทำไมพิมพ์เยอะยิ่งคุ้ม (เศรษฐศาสตร์งานพิมพ์)
วิชาเศรษฐศาสตร์แบบเข้าใจง่ายๆ สำหรับคนทั่วไป
ราคาต่อใบ = (ต้นทุนคงที่ ÷ จำนวนที่พิมพ์) + ต้นทุนต่อใบ
ดังนั้น : ยิ่งพิมพ์มาก “ต้นทุนคงที่เฉลี่ยต่อใบ” ก็จะยิ่งลดลง
จนทำให้ราคาต่อใบถูกลงอย่างชัดเจน
โดยมีรายละเอียดตัวแปรต่างๆ ดังนี้ :
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost): ค่าตั้งเครื่อง ทำเพลท ปรับสี กระดาษสูญเสียช่วงตั้งเครื่อง ฯลฯ ซึ่งไม่ว่าพิมพ์ 50 ใบ หรือ 5,000 ใบ ค่าเหล่านี้เกิดขึ้นครั้งเดียว
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost): ต้นทุนต่อใบ เช่น ค่าช่างต่อใบ กระดาษต่อใบ หมึกพิมพ์ต่อใบ ค่าเคลือบต่อใบ ฯลฯ ซึ่งพิมพ์ยิ่งมาก ยอดรวมยิ่งมาก
มีสูตรการคำนวณดังนี้ :
ต้นทุนผันแปร = ต้นทุนต่อใบ x จำนวนที่พิมพ์
ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่ + (ต้นทุนต่อใบ x ต้นทุนผันแปร)
ราคาต่อใบ = (ต้นทุนคงที่ ÷ จำนวนที่พิมพ์) + ต้นทุนต่อใบ
ลองดูตัวอย่างเปรียบเทียบ ตารางราคาและจำนวนของการ พิมพ์ใบปลิว A5
ถ้าพิมพ์ 100 ใบ
Offset ต้นทุนรวมประมาณ 1,680 บาท → ตกใบละ 16.80 บาท
Digital ประมาณ 450 บาท → ตกใบละ 4.50 บาท
ถ้าพิมพ์ 200 ใบ
Offset รวม 1,860 บาท → ใบละ 9.30 บาท
Digital รวม 900 บาท → ใบละ 4.50 บาท
ถ้าพิมพ์ 500 ใบ
Offset รวม 2,400 บาท → ใบละ 4.80 บาท
Digital รวม 2,250 บาท → ใบละ 4.50 บาท
ถ้าพิมพ์ 1,000 ใบ
Offset รวม 3,300 บาท → ใบละ 3.30 บาท
Digital รวม 4,500 บาท → ใบละ 4.50 บาท
ถ้าพิมพ์ 2,000 ใบ
Offset รวม 5,100 บาท → ใบละ 2.55 บาท
Digital รวม 9,000 บาท → ใบละ 4.50 บาท
จากข้อมูลด้านบนจะเห็นว่า
ปริมาณน้อย (เช่น 100–300 ใบ) Digital มักคุ้มกว่า เพราะไม่มีค่าตั้งเครื่องสูง
ปริมาณมาก (เช่น 1,000+ ใบ) Offset ชนะ เพราะ F ถูกเฉลี่ยต่อใบจนต่ำกว่า Digital
ลองคำนวณจุดคุ้มกัน (Break-even) ระหว่าง Offset vs Digital
พิมพ์Offset : ต้นทุนคงที่ = 1,500 บาท, ราคาต่อใบ = 1.80 บาท/ใบ
พิมพ์ Digital : ต้นทุนคงที่ ≈ 0 บาท, ราคาต่อใบ = 4.50 บาท/ใบ
จากสมการ
จำนวนที่พิมพ์ = ต้นทุนคงที่ ÷ (ราคาต่อใบ digital – ราคาต่อใบ offset)
จำนวนที่พิมพ์ = 1,500 ÷ (4.50 − 1.80) ≈ 556 ใบ
ดังนั้น จุดคุ้มกันระหว่าง Offset vs Digital จะอยู่ที่จำนวนที่พิมพ์ 556 ใบ
ถ้าจำนวนมากกว่านี้ ราคาต่อใบ Offset จะถูกกว่า ราคาต่อใบ Digital
สาเหตุที่ทำให้ “ยิ่งเยอะยิ่งคุ้ม” :
1. ค่าเซ็ตเครื่อง & Make-ready: การตั้งเครื่อง/เพลท/ปรับสี ใช้เวลาและวัสดุ – เป็นต้นทุนคงที่จำนวนมากในงาน Offset
2. กระดาษสูญเสียช่วงตั้งเครื่อง (Setup Waste): ต้องเผื่อกระดาษทิ้งช่วงไล่สี/ลงทะเบียนบล็อก
3. Imposition & Yield บนแผ่นกระดาษใหญ่: จัดวางหลายชิ้นงานต่อแผ่น (รีมใหญ่) ได้ดีขึ้นเมื่อจำนวนมาก
4. ประสิทธิภาพสายการผลิต: เมื่อเริ่มรันยาว ๆ เครื่องทำงานได้ “คุ้มค่า” ต่อชั่วโมงมากขึ้น
5. ส่วนลดปริมาณ (Price Breaks): ซัพพลายเออร์กระดาษ/ฟินิชชิ่งมักมีขั้นลดราคาตามยอด
ดังนั้นควรเลือกชนิดชนิดงานพิมพ์ให้ถูกกับงาน เพื่อความคุ้มค่าให้มากที่สุด
Digital Print: เหมาะกับ 20–500 ใบ, ไว, แก้งานเร็ว, เปลี่ยนเวอร์ชันได้ง่าย (เช่น เปลี่ยนรายชื่อ /QR code เฉพาะสาขา)
Offset Print: เหมาะกับ 1,000 ใบขึ้นไป, คุณภาพสีสม่ำเสมอมาก, ต้นทุนต่อใบถูกเมื่อจำนวนมาก
Get in touch