เป็นเทคนิคการพิมพ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตสิ่งพิมพ์คุณภาพสูงในปริมาณมาก

โดยมีขั้นตอนหลักๆดังนั้น

1. เตรียม อาร์ตเวิร์ก (Artwork) : โดยใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ออกแบบ สี ตัวอักษร เค้าโครง และองค์ประกอบต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ
2. สร้างแผ่นเพลท (Plate) : โดยอาร์ตเวิร์กที่เตรียมไว้จะถูกถ่ายโอนไปยังเพลทโลหะ ซึ่งโดยทั่วไปทำจากอะลูมิเนียมหรือสังกะสี ซึ่งทำได้โดยผ่านกระบวนการถ่ายภาพหรือใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่อเพลท (CTP) ซึ่งจะถ่ายโอนภาพดิจิทัลไปยังเพลทโดยตรง
3. การใช้หมึก (Ink Application) : โดยแผ่นเพลทที่ผลิตขึ้นจะอาบด้วยน้ำยาเคมีที่ทำให้เพลทบริเวณที่มีภาพจะอมหมึก ไม่อมน้ำและบริเวณที่ไม่มีภาพ จะไล่หมึก อมน้ำ
4. การถ่ายโอนหมึก (Ink Transfer) : โดยหมึกจะสัมผัสกับกระบอกผ้าห่มยาง และกระบอกผ้าห่มจะถ่ายโอนภาพหมึกจากจานไปยังผ้าห่ม
5. การพิมพ์ (Printing) : กระดาษจะถูกป้อนเข้าแท่นพิมพ์ และกระบอกครอบจะถ่ายโอนภาพหมึกลงบนกระดาษ กระบวนการนี้จะมีกระบอกและลูกกลิ้งหลายอัน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการพิมพ์หมึกที่เหมาะสมและถูกต้อง
6. การทำให้แห้ง (Drying) : หลังจากการพิมพ์ ต้องรอให้หมึกแห้งก่อนที่จะเอาไปทำขั้นตอนอื่นๆต่อ สามารถเป่าแห้งหรือเร่งความเร็วโดยใช้อุปกรณ์ทำให้แห้งได้ต่างๆได้

การพิมพ์ออฟเซ็ทนั้น ในการพิมพ์แต่ละสีก็ต้องทำเพลท 1 แผ่น ดังนั้นการพิมพ์ 4 สี (CMYK) ก็ต้องใช้เพลทแม่พิมพ์ 4 แผ่น และเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ทก็มีหลายขนาด ขึ้นอยู่กับจำนวนสี (1 สี 2 สี 4 สี 5 สี) ที่ทำการพิมพ์ในรอบเดียว ยิ่งจำนวนสีที่พิพม์ใน 1 รอบเยอะ ขนาดเครื่องพิมพ์ก็จะใหญ่ขึ้นตาม

ซึ่งเครื่องพิมพ์ออฟเซต แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1. เครื่องพิมพ์ชนิดป้อนแผ่น (sheet-fed) : เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ป้อนกระดาษทีละแผ่น เข้าเครื่องพิมพ์อย่างสม่ำเสมอ โดยเหมาะกับงานพิมพ์ขนาดกลางที่พิมพ์บนชีทกระดาษที่ยังไม่ถูกตัด อย่างเช่น กระดาษขนาด B0, B1, หรือ B2

2. เครื่องพิมพ์ชนิดป้อนม้วน (web offset) : เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้สามารถพิมพ์ได้ด้วยความเร็วสูง และปริมาณการพิมพ์มากในเวลาจำกัด เหมาะกับงานพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ สมุดโทรศัพท์ หรือแคตตาล็อก

ข้อดีของการพิมพ์ออฟเซต (Offset Printing) :
พิมพ์ได้จำนวนครั้งละมาก ๆ ในระยะเวลาไม่นาน
พิมพ์สีพื้นที่กว้าง ได้สีที่เรียบ ไม่มีรอย
มีคุณภาพสูง ละเอียด คมชัด
ยิ่งสั่งพิมพ์มาก ค่าใช้จ่ายจะถูกลง